"จ่าเฉย"ตำรวจน้ำดี..ร่วมทุจริต!! - เดลีนีวส์

"จ่าเฉย"ตำรวจน้ำดี..ร่วมทุจริต!! - เดลีนีวส์ - Sahabat Artis Media, kali ini Artis Media akan memberikan informasi penting , viral dan terupdate tentang artis - artis mancanegara dengan judul "จ่าเฉย"ตำรวจน้ำดี..ร่วมทุจริต!! - เดลีนีวส์ yang telah kami rangkum semenarik mungkin untuk menemani dan mengupdate wawasan anda tentang artis atau selebriti kesayangan anda. Semoga informasi dari Artis Media yang telah kami sajikan mengenai tentang informasi Hiburan, dapat menjadikan anda lebih berwawasan dan mengetahui tentang artis idola anda. Tidak lupa Artis Media menyampaikan untuk selalu ikuti informasi dari kami yang menarik, informatif dan ringan mengenai berita - beita artis hanya di Artis-Media.

Judul : "จ่าเฉย"ตำรวจน้ำดี..ร่วมทุจริต!! - เดลีนีวส์
link : "จ่าเฉย"ตำรวจน้ำดี..ร่วมทุจริต!! - เดลีนีวส์

Artis-Media with matasblogs.blogspot.com

ผมนั้นมีที่ดินอยู่แปลงหนึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดนครปฐม ผมซื้อเอาไว้ตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ ตอนที่ซื้อนั้นที่แปลงนี้เป็นเพียงที่สวนมะนาวเก่าค่อนข้างรกร้าง เส้นทางที่เข้าถึงเป็นถนนดินลูกรังแคบ ๆ แต่ในวันนี้สภาพแวดล้อมแถบนั้นพัฒนาขึ้นมาก ที่ดินผมมีถนนลาดยางอย่างดีตัดผ่าน มูลค่าก็อัพขึ้นมาหลายเท่าตัว แล้วยิ่ง ๆ แว่ว ๆ ว่า รัฐบาลมีแผนสร้างสนามบินแห่งใหม่ใกล้ ๆ อีกด้วย จึงถือว่าคิดไม่ผิดที่กัดฟันซื้อเอาไว้

โชคชะตาที่มาได้ที่ดินแปลงนี้ก็แรกเริ่มเพราะผมชอบปลูกต้นไม้ ก็เลยอยากทำสวนควบคู่ไปกับงานราชการ มองไปที่การทำสวนมะนาว เพราะในช่วงนั้นมะนาวหน้าแล้งราคาสูงมาก (ซึ่งปัจจุบันก็ยังเป็นเช่นนั้น ) ผมก็เลยวางแผนหาที่ดินราคาไม่แพง ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เพื่อทำสวนมะนาว

แล้วบังเอิญว่าขณะที่เข้าเวรพนักงานสอบสวน มีเหตุรถบรรทุกสิบล้อเกิดอุบัติเหตุ เจ้าของรถสิบล้อเป็นกำนันอยู่ที่นครปฐม ผมก็เลยถาม ๆ แกไป วันหนึ่งแกก็ส่งข่าวมาว่า มีคนแถวบ้านแกจะขายสวนมะนาว การซื้อขายก็เป็นไปตามขั้นตอน ผมชำระส่วนหนึ่งให้เจ้าของที่ ส่วนที่เหลือก็ จดจำนองกับธนาคาร เป็นหนี้ก้อนใหญ่ก้อนแรก ก็ทยอยผ่อนชำระมาเรื่อย จนตอนนี้สถานภาพเป็นไทเรียบร้อย

ตอนนั้นผมก็รู้สึกว่าตัวโชคดีที่ได้สวนมะนาวมาเป็นของตัวเอง คำนวณแล้วว่าเดือน ๆ ต้องขายมะนาวได้เดือนละหลายหมื่นบาท แต่เอาเข้าจริงมันไม่เป็นอย่างนั้น เพราะผมเคยปลูกแต่ต้นไม้ในกระถางเล็ก ๆน้อย ๆ ไม่มีความรู้การทำสวนขนาดใหญ่เลยสักนิด ซึ่งการมาทำสวนมือใหม่ ทำให้ผมพบว่า ต้นไม้เมื่อมันอยู่เดี่ยว ๆ จะดูแลง่ายกว่าการปลูกรวม ๆ กันเป็นสวนเป็นไร่ เพราะเมื่อต้นไม้มาอยู่รวม ๆ กันมันจะมีโรคระบาดและแมลงมาลง

โรคระบาดประจำพืชตระกูลส้มและมะนาว คือโรคแคงเกอร์ ซึ่งเกิดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ไม่เป็นพิษต่อมนุษย์ แต่ฤทธิ์ของมันทำให้ผิวมะนาวไม่สวยดูเป็นขี้กราก ป้องกันและรักษาได้โดยฉีดพ่นเคมีสม่ำเสมอ เนื่องจากสวนของผมเป็นสวนเทวดาเลี้ยง ไม่มีคนดูแล เพราะตัวผมก็ไปสวนได้เฉพาะวันหยุดราชการเท่านั้น จึงเป็นแคงเกอร์ทั้งสวน

ผมเก็บมะนาวได้เป็นกระสอบ ๆ แต่ขายแล้วไม่มีใครซื้อ เลยต้องแจก ๆ ไป สุดท้ายก็ปล่อยร่วงชาวบ้านมาเก็บไปกินมั่งก็ปล่อย ๆ เขา สุดท้ายผมก็ปล่อยทิ้งร้างไปหลายปี ในตอนนั้นรู้สึกเป็นทุกข์มากครับ เพราะต้องผ่อนธนาคารทุกเดือนกับที่ดินที่ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย

แล้วเมื่อเกือบสิบปีก่อน ผมได้ตัดสินใจกลับมาพัฒนาที่ดินแปลงนั้นเองอีกครั้ง เพราะภรรยาได้มาทำร้านอาหารในกรุงเทพฯ จึงเกิดแนวคิดทำสวนผักปลอดสารพิษและเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ เอาผลผลิตทั้งผักและไข่ มาบริโภคเองรวมทั้งใช้ในร้านอาหารด้วย และผมยังได้ปลูกมะนาวด้วยอีกจำนวนหนึ่ง

ผมปลูก “แป้นจำรัส 28” มะนาวพันธ์ผสมของอาจารย์จำรัส คูหเจริญ ที่มีภูมิต้านทานโรคแคงเกอร์ จึงไม่ต้องใช้เคมีรักษาผิวให้สวย ในตลาดอาจไม่เป็นที่นิยมมากนัก เพราะผลของมันมีขนาดใหญ่เกือบเท่าส้มและมีเปลือกหนาไปสักนิด ทำให้แม่ค้าพ่อค้ารู้สึกว่ามันบีบยากกว่ามะนาวแป้นทั่วไป แต่เชื่อผมเถอะถ้าจะบริโภคมะนาวปลอดสารเคมี ผมขอแนะนำให้หาติดบ้านไว้

การกลับมาทำสวนครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จด้วยดี เพราะผมมีความพร้อมและได้ศึกษาหาความรู้ด้านเกษตรกรรมมาแล้ว เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าจะไปให้ถึงจุดหมายที่ตั้งไว้ มีแค่ความฝันมันไม่พอ คุณต้องรู้จริงถึงวิธีที่จะไปให้ถึงจุดหมายด้วย

เขียนมาตั้งเยอะยังไม่เข้าเรื่องเลยนะนี่ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า ที่ผมเปิดมาเล่าเรื่องสวนไปเรื่อยเปื่อยนั้น เพราะเมื่อวันเสาร์ ผมได้เข้าสวนไปดูคนงานที่กำลังก่อสร้างร้านอาหารใหม่ ในสวนแปลงนั้น ขณะกำลังพูดคุยกับคนงานผมก็ได้ยินเสียง ปัง ๆ ๆ คล้ายเสียงปืน ดังเป็นระยะที่ด้านหน้าสวน สลับเสียงร้องตะโกน เฮ้ว ๆ เป็นระยะ

ผมก็เดินไปดู เห็นลุงคนหนึ่งยืนอยู่... อ่อ ตาลุงนี่ เปรี้ยวเหรอ มายืนยิงปืนหน้าบ้านตำรวจ....แกหันมาเห็นผมแล้วยิ้มให้...ผมรู้ตั้งแต่แรกแล้วครับว่าไม่ใช่เสียงปืนอะไรหรอก มันแค่เสียงประทัดไล่นก เพราะที่ดินตรงข้ามที่ผมเป็นนาข้าว ที่เพิ่งหว่านและเมล็ดกำลังงอก แน่นอนว่ามีฝูงนกพิราบพากันมากินบุฟเฟ่ต์เป็นฝูงใหญ่

ลุงแกถามผมว่ารบกวนหรือเปล่าครับ ผมบอกว่าไม่เป็นไรครับ เพราะมันก็ไม่ได้ดังมากและก็ไม่ได้บ่อยอะไร ผมชอบซะอีกที่มีที่นาผืนใหญ่ตรงนี้ เพราะทุก ๆ ปีจะได้เห็นภาพท้องนาสีเขียวสวย และช่วงก่อนก็เก็บเกี่ยวนั้นข้าวออกรวงเป็นสีเหลืองทองอร่ามงามทั้งผืน น่าจะเป็นจุดถ่าย เซลฟี่อย่างดีให้ลูกค้าร้านอาหารของผมในอนาคต

ผมแนะนำให้แกซื้อว่าวนกเหยี่ยวมาผูก เพราะเห็นใน internet ว่ามันช่วยไล่นกได้ แกบอกผมว่าเคยใช้แล้วไม่ได้เรื่องหรอก ไอ้นกพวกนี้มันฉลาด มันกลัว ๆ ไม่กี่วัน พอมันรู้ว่าไม่ใช่เหยี่ยวจริงมันก็หายกลัว

ดูนั่นสิ หุ่นไล่กาตั้งกี่ตัว มันกลัวกันที่ไหน ผมมองตามไปก็เห็นหุ่นไล่กาสองตัวกลางทุ่งนา มีนกเกาะหัว เกาะแขน เต็มไปหมด “จะวางยาเบื่อก็กลัวบาปกรรม” แกพูดต่อ ผมบอกแกว่าดีละครับ ปล่อย ๆ ไปเถอะลุง แบ่ง ๆ กันกิน

ผมนึกถึงพฤติกรรมนกไม่กลัวว่าวเหยี่ยวปลอม ไม่กลัวหุ่นไล่กา ทำให้ความคิดผมคิดถึงตำรวจใจดีที่ชื่อ “จ่าเฉย”

จ่าเฉยเป็นตำรวจหนุ่ม หุ่นสมาร์ต บึกบึน ไม่มีพุง สูงถึง 185 ซม. ขยันขันแข็ง ยืนยิ้มตากแดดตากฝนทั้งวันทั้งคืน แถมใจดีเพราะแกไม่เคยจับใครเลย ที่เป็นเช่นนั้นเพราะแกเป็นหุ่นไฟเบอร์ครับ หลายท่านคงจำจ่าเฉยกันได้นะครับ

ที่มาของจ่าเฉยนั้น ย้อนไปปี 2550 เนื่องจากทางผู้บริหารโรงพยาบาลวิภาวดีและภาคเอกชน ได้ตระหนักถึง ความลำบากตรากตรำของตำรวจจราจรบนท้องถนน จึงปิ๊งไอเดียแบ่งเบาภาระหน้าที่ของตำรวจ โดยได้ร่วมลงทุนทรัพย์จัดกำลังเสริมให้กับตำรวจ โดยการสร้างกองทัพหุ่นจำลองตำรวจขึ้น มอบให้กับตำรวจนครบาล เพื่อนำไปตั้งไว้ยังจุดต่าง ๆ เช่น ถนนหนทาง ป้อมจราจร ในกรุงเทพฯ วัตถุประสงค์คือเพื่อสำหรับป้องปรามผู้ขับขี่รถไม่ให้กระทำผิดกฎจราจร อืม..ก็เป็นไอเดีย..ที่บรรเจิด

ที่ผมบอกว่า ไอเดียบรรเจิด นั้นไม่ได้เหน็บแนมนะครับ เพราะใช้ได้ผลจริง ๆ แรก ๆ ของการทำงานของจ่าเฉยก็ดูจะได้ผลดีครับ หุ่นจ่าเฉยสามารถใช้ป้องปรามผู้ขับขี่รถยนต์ที่ตั้งใจจะฝ่าฝืนกฎจราจรได้ โดยเฉพาะในยามค่ำคืน เพราะจ่าเฉยที่ยืนอยู่ที่แสงน้อย ๆ นั้นดูเหมือนตำรวจจริงๆ

เมื่อคืนก่อน..กูบิดมอไซค์ลงสะพานมาอย่างเร็ว ตำรวจแม่งยืนอยู่ กูเบรกรถเกือบคว่ำ..ไอ้ชิบหาย..ดันเป็นจ่าเฉย” เด็กแว้นวัยคะนองคนหนึ่งเล่าประสบการณ์เจอจ่าเฉยให้เพื่อนฟัง “กูยังว่า..ตำรวจเชี่ยไรวะ แม่งขยันจัง มายืนโบกรถตอนตีสอง”

พฤติกรรมของคนกับนก ก็เหมือน ๆ กัน เมื่อรู้ว่าไม่ใช่ของจริง ความกลัวในตัวจ่าเฉยก็หายไป นอกจากคนจะเริ่มไม่กลัวจ่าเฉยแล้วยังมีคนร้องเรียนอีกด้วย ตำรวจจริง ๆ ร่วมมือกับจ่าเฉยทำทุจริต .. ห๊า ! ..ทำยังไงเหรอ ?

เขาบอกอย่างนี้ครับว่า “มีการใช้จ่าเฉยวางเป็นตัวล่อ” ในจุดที่ล่อแหลมต่อการกระทำผิดจราจร ผู้ขับขี่รถรู้ว่าเป็นจ่าเฉย ก็ไม่กลัว ขับรถฝ่าฝืนหน้าตาเฉย แต่แล้วก็มาจ๊ะเอ๋...กับตำรวจจริงที่แอบอยู่ข้างเสาไฟฟ้าแล้วมีการเรียกรับสินบน นี่มันวิธีการของเมาคลีที่ใช้ฆ่าแชร์คาน แท้ ๆ เชียว...

จากนั้นจ่าเฉยก็ค่อย ๆ ถูกเก็บไปจากถนนในกรุงเทพฯ แต่เนื่องจากเป็นตำรวจน้ำดีไม่มีประวัติด่างพร้อย จึงมีการขอตัวจ่าเฉยที่ยังสภาพดีไปไว้ที่จังหวัดต่าง ๆ ล่าสุดได้ยินว่าจ่าเฉยที่ไปประจำการที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับเลื่อนยศเป็นผู้หมวดแล้ว ก็ขอแสดงความยินดีด้วย

ส่วนตัวผมเองเคยเจอจ่าเฉย ที่ยังหลงเหลืออยู่ในกรุงเทพฯ ท่านที่ยังติดยศจ่าเหมือนเดิม แต่ต้องตกใจที่จ่าเฉยท่านนี้ได้รับการอัพเกรดเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีกระถางธูปพวงมาลัยและที่ขาดไม่ได้คือขวดน้ำแดงบูชา ! ...เอ้า

...ตอนหน้าจะมาเล่าเรื่องอิทธิฤทธิ์ของจ่าเฉยกันครับ

.......................................
คอลัมน์ : Story  ผู้กองกบ
โดย : ผู้กองกบ

Let's block ads! (Why?)




August 30, 2020 at 07:30AM
https://ift.tt/2DbvQYl

"จ่าเฉย"ตำรวจน้ำดี..ร่วมทุจริต!! - เดลีนีวส์

https://ift.tt/2ABr4S3

Demikianlah informasi dari "จ่าเฉย"ตำรวจน้ำดี..ร่วมทุจริต!! - เดลีนีวส์

Semoga berita dan informasi artis berjudul "จ่าเฉย"ตำรวจน้ำดี..ร่วมทุจริต!! - เดลีนีวส์ kali ini, dapat memberi manfaat untuk anda semua. Baiklah, sampai jumpa di postingan artikel berita dan informasi artis lainnya.

Anda sekarang membaca artikel "จ่าเฉย"ตำรวจน้ำดี..ร่วมทุจริต!! - เดลีนีวส์ dengan alamat link https://artis-media.blogspot.com/2020/08/blog-post_590.html

Subscribe to receive free email updates:

AdBlock Detected!

Ooooooops !!! Forgive me friend -_-

Like this blog? Keep us running by whitelisting this blog in your ad blocker.

Thank you!

×