'ศิริพร อำไพพงษ์'ลั่นต่อจากนี้ !!ของดรับงานในวงการ พร้อมเผยตั้งจิตของมีชีวิตอยู่ถึงแค่อายุ 59 ปี - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

'ศิริพร อำไพพงษ์'ลั่นต่อจากนี้ !!ของดรับงานในวงการ พร้อมเผยตั้งจิตของมีชีวิตอยู่ถึงแค่อายุ 59 ปี - หนังสือพิมพ์แนวหน้า - Sahabat Artis Media, kali ini Artis Media akan memberikan informasi penting , viral dan terupdate tentang artis - artis mancanegara dengan judul 'ศิริพร อำไพพงษ์'ลั่นต่อจากนี้ !!ของดรับงานในวงการ พร้อมเผยตั้งจิตของมีชีวิตอยู่ถึงแค่อายุ 59 ปี - หนังสือพิมพ์แนวหน้า yang telah kami rangkum semenarik mungkin untuk menemani dan mengupdate wawasan anda tentang artis atau selebriti kesayangan anda. Semoga informasi dari Artis Media yang telah kami sajikan mengenai tentang informasi Hiburan, dapat menjadikan anda lebih berwawasan dan mengetahui tentang artis idola anda. Tidak lupa Artis Media menyampaikan untuk selalu ikuti informasi dari kami yang menarik, informatif dan ringan mengenai berita - beita artis hanya di Artis-Media.

Judul : 'ศิริพร อำไพพงษ์'ลั่นต่อจากนี้ !!ของดรับงานในวงการ พร้อมเผยตั้งจิตของมีชีวิตอยู่ถึงแค่อายุ 59 ปี - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
link : 'ศิริพร อำไพพงษ์'ลั่นต่อจากนี้ !!ของดรับงานในวงการ พร้อมเผยตั้งจิตของมีชีวิตอยู่ถึงแค่อายุ 59 ปี - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

Artis-Media with matasblogs.blogspot.com

วันเสาร์ ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2563, 11.13 น.

ขึ้นชื่อว่าเป็นนักร้องสายบุญตัวจริง สำหรับนักร้องฉายาแหบมหาเสน่ห์ พี่นาง ศิริพร อำไพพงษ์ ที่ช่วงหลังๆหายหน้าหายหน้าจากหน้าจอไป ล่าสุดได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ให้แฟนๆได้หาคิดถึง ซึ่งเจ้าตัวได้เผยว่าโชคลาภที่ทุกคนเห็นว่าได้มาบ่อยๆนั่นเพราะเป็นความโชคดี ส่วนงานในวงการเพลงต่อจากงานนี้ของดรับงานแบบไม่มีกำหนด พร้อมเผยว่าเคยตั้งจิตไว้ว่าขอมีอายุอยู่บนโลกนี้ถึงอายุเพียง 59 ปี เท่านั้น

ไม่รับเพราะเราตั้งใจไม่รับเลยเหรอ ?

พี่นาง : ตั้งใจไม่รับค่ะ

สมมุติติดต่อไปอยากให้พี่นางมาร้องเพลงที่แบบงานนี้ ช่วงนี้ไม่รับ ?

พี่นาง : ไม่รับเลยค่ะ

ทำไมพี่นางถึงไม่รับงาน ในเมื่อเราเป็นนักร้องหรือคิดว่าเราพอแล้ว ?

พี่นาง : ก็เหมือนเรากินข้าวมันอิ่ม ก็เห็นลูกๆหลานๆน้องๆเกิดขึ้นมาเยอะ ก็บอกทางบริษัทไปว่า “ ถ้าหนูไม่รับงานได้ไหม”ทางบริษัทก็บอก “เอาเป็นบางงานได้ไหม”ก็มีการพูดคุยบอกผู้หลักผู้ใหญ่ ตุ้ยเขาจะลำบากใจเพราะเขาดูแลเราอยู่ “ถ้างานไหนที่ขัดไม่ได้งานนี้พี่นางต้องไปนะ” ก็ไปค่ะ ไม่ใช่ว่าไม่รับเลยต้องดู  ไม่ใช่ว่าหยิ่งหรือถือตัวเป็นงานที่มันไม่ได้สำคัญที่ว่าเราต้องไปแบบนี้ก็ขอทางบริษัท

ถ้าถามว่า ณ. วันนี้พี่นางถือว่าลาวงการแล้วอย่างนี้ได้ไหมหรือว่าสักวันนึงจะกลับมาร้องไหม ?

พี่นาง : ไม่ได้ลา คือจะไม่ลาวงการเลย แต่เราตกลงกับบริษัทว่าร้องน้อยลงเคยพูดคำว่าลาหลายครั้งมันไม่สำเร็จสักครั้งเลยไม่ต้องพูดเลยค่ะ

อย่างล่าสุดนี้ได้ยินว่า ณ.ตอนนี้นี้คือเค้าบอกว่าพี่นางส่วนนึงที่ไม่รับงานอะไรเลยในวงการ เพราะตอนนี้ “ติดวัด”คือไปอยู่วัดเลยกิน นอน อยู่ที่วัดเลย ไม่กลับบ้านเลยขนาดนั้นเลยเหรอ ?

พี่นาง : คือในตอนนั้น ก่อนที่จะโควิด พี่นางไปต่างประเทศกลับมา มันอาจจะเป็นดวงพี่นาง พอกลับจากเวียดนามเสร็จประมาณ10วันโควิดก็มา เราก็เชื่อในเรื่องบุญไง ก็ดูในที่เขาไลฟ์สดกันข่าวโน้นข่าวนี้ว่า คนที่จะอยู่ได้ต้องใส่สีขาว เป็นพวก    ชีพราหมณ์ พวกชีผ้าขาวอะไรอย่างนี้ ให้อยู่วัดให้นอนวัด ความที่เราทำบุญอยู่แล้วเชื่อในเรื่องบุญอยู่แล้ว เอาก็ก็บวชชีพราหมณ์เลย บวชชีพราหมณ์ได้ 9 วันก็สึกออกจากชีพราหมณ์ เราก็ต่อเลยถือศีล 5 ต่อเลย ไม่ได้บวชชีพราหมณ์มันก็เลยรันมา 4 เดือน 5 เดือน 6 เดือน ก็อยู่แบบนี้ ใครถามก็อยู่วัด

ซึ่งอยู่แบบนี้มา 4 เดือนแล้ว ?

พี่นาง : 4 เดือนเต็มๆที่ถือศีลอยู่นั่น

รู้ไหมชีวิตพี่นางเนี่ย อยู่ง่ายกินง่ายเรียบง่าย ไม่เคยทำตัวเป็นซุปเปอร์สตาร์ ไม่เคยทำตัวเป็นเศรษฐีใหญ่อะไรเลยนะ แต่ในขณะเดียวกันบั้นปลายชีวิตของนาง นางไม่หวังมีใครมาดูแลนะ จนกระทั่งไปบริจาคร่างกายไว้แล้ว?

พี่นาง : หลายปีมาแล้วนะ เราก็ไม่ได้คิด ในการทำงานเหมือนกันเราก็ไม่ซีเรียส ถ้าเราทำงานอะไรขอให้มีความสุข อย่าไปซีเรียสอย่าไปฟังอย่างงั้นอย่าง คือเราทำงานตามหน้าที่ไป แต่บั้นปลายชีวิตเนี่ย เราไม่มีลูกจะบอกให้ใครมาดูแลเหรอ ลูกมาดูแลเหรอ แล้วลูกบางคนดูแลพ่อแม่หรือเปล่าเราต้องคิดอย่างนี้ ถ้าเราได้เจอแล้วว่ามันเป็นแบบนี้ๆก็เลยมีอยู่วันนี้ก็เลยขอบริจาคร่างกายที่ขอนแก่น ศรีนครินทร์ บริจาคให้พระอาจารย์นี่แหละดูแล กับน้องชายอีกคนนึงดูแลมอบให้ว่าไม่ต้องให้พี่น้องมายุ่งยาก ไม่มาต้องเอาชื่อเสียงไปทำมาหากิน ระบุไว้เลยไม่ต้อง จัดงานให้ศิริพรอย่างนี้ ไม่ต้อง อย่าให้คนอื่นมาเดือดร้อน

แล้วจริงไหมที่ถูกล็อตเตอรี่ 300 งวดติด ?

พี่นาง : มันเหมือนเป็นดวงเป็นบุญมากกว่า มันไล่มาเรื่อยๆ

ถูกแทบทุกงวดเลยใช่ไหม ?

พี่นาง : แทบทุกงวด ถ้างวดไหนไม่ถูกคือไม่ถูกเลยแม้แต่ใบเดียว

เวลาเราซื้อแบบมันมีอะไรผ่านเข้ามาในสายตา ในชีวิต เข้าหู หรือแบบว่าเดินไปแล้วตั้งจิตอธิฐานแล้วคว้าเลย หรือแบบคืนนี้ขอให้ฝันนะ หรือต้องไปขอพระอะไรไหม?

พี่นาง : คิดว่าน่าจะเป็นดวงมากกว่านะ แต่ความเชื่อของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่สำหรับแม่นางนี้คิดว่าน่าจะเป็นบุญเป็นดวงที่เราทำบุญมาแบบไหนก็ไม่รู้ แต่ตัวแม่นางคือสมมุติไปเสี่ยงเซียมซีมันตกลงมาทำไมเราไปลองซื้อดู ทำไมมันถูก น่าจะเป็นบุญ บางครั้งเราก็ขอบ้าง ถ้าเมตตาเราก็จะได้สร้างต่อไป ตอนนี้กำลังสร้างพระอุปคุต พระแห่งความอุดมสมบูรณ์หรือพระปราบมารสูง 12 เมตรกว้าง 5 เมตร

คือถูกหวยต่อเนื่องกันมาเกือบ300งวด บางคนก็เลยมองว่าไม่รับงานรวยแล้วได้เงินจากหวยไม่รับงานร้องเพลงแล้ว?

พี่นาง : รวยจริงค่ะ รวยบุญ ไม่ใช่ว่ารวยที่ว่าถูกล็อตเตอรี่อะไรนะคะ การที่เราซื้อพวกนี้ ถ้าเราพูดแบบนี้เหมือนชวนให้คนงมงาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องมีสตินะคะ การพนันเป็นสิ่งที่ไม่ดีอยู่แล้ว เรื่องถูกล็อตเตอรี่ไม่ใช่ถูกแต่ศิริพรมีมากมายหลายคนที่ถูก ถูกเยอะเป็นราวัลที่1เป็น 90ล้าน100ล้านก็มีแต่ศิริพรไม่เคยถูกรางวัลที่1 แต่รางวัลที่1 ที่พี่นางได้คือรางวัลบุญ แค่นั้นก็ถือว่าเป็นบุญแล้ว ไม่อยากให้แฟนๆหรือพี่น้องไปยึดติดในการซื้อล็อตเตอรี่หรือซื้อหวย

แล้วมีคนแบบว่ามาขอเลข ซื้อตาม ถ้ามาเจอแบบนี้ปกติพี่นางจะพูดว่าอะไร ?

พี่นาง : คนมาขอนี่เยอะมากๆ แต่ว่าพี่นางก็จะพูดว่ามันเป็นเรื่องบุญ อยากได้ก็ขอใครขอมัน ไปขอปู่ได้เลย หรือขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพ ขอคุณพ่อคุณแม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นได้ทุกคนนะ คำอธิฐานก็ได้ทุกคน แต่มันเป็นบางเรื่องสมหวังก็เป็นบางเรื่องเป็นบางโอกาส สิ่งนี้พี่นางจะพูดอยู่ตลอด

เพราะฉะนั้นจริงๆแล้วพี่นางถูกล็อตเตอรี่ที่บอกว่าได้มาเยอะแยะบอกว่ารวยบุญก็เพราะว่า เอาเงินไปทำบุญ เราพูดไว้ว่าสร้างวัดสร้างพระมากมาย ?

พี่นาง : ในความเชื่อของแต่ละคนมันก็ไม่เหมือนกัน ต่างคนต่างจิตต่างใจ แต่ในการที่เราอธิฐานในเรื่องทำบุญ พูดอยู่เสมอว่า มันอยู่ที่ใจ ถ้าเราคิดดีทำดี ถ้าเราเจอกับตัวเราเองเราจะไม่ได้คิดว่าทำตามคนโน้นคนนี้ มันต้องที่ตัวเราคิดเองทำเอง ถ้าเราตั้งใจทำเนี่ย เราอธิฐานว่า “ถ้าข้าพเจ้าศิริพร อำไพพงษ์เนี่ยมีบุญวาสนา ขอให้ข้าพเจ้าสร้างให้สำเร็จภายในเร็ววัน ให้ญาติโยมสายบุญสายธรรมหลั่งไหลมาทำบุญกับข้าพเจ้าด้วยนะเจ้าคะ” นี่คือคำอธิฐานของพี่นาง  แต่ที่นี่ทำไมเราอธิฐานแล้วมันเป็นจริง ในการสร้างทำไมมันเรียบง่าย มันมีความสุขด้วย ทำไมมันเสร็จไวปีเดียว  พญานาคองค์ยาวเกือบ1,500 เมตรแล้วให้เสร็จภายในปีเดียวคงเป็นไปไม่ได้

นี่คือพี่นางสร้างวัดนี้มาเป็นระยะเวลาทั้งหมดกี่ปี ?

พี่นาง : น่าจะ 7 ปีค่ะ  

แต่องค์พญานาคปีเดียวเสร็จเลย ?

พี่นาง : องค์พญานาคองค์ที่ยาวปีเดียวก็ไม่เสร็จ คู่ที่ลงมาจากถนนอันนี้ปีเศษๆ แต่ทางเข้าไปมัน เกือบ 1,500 เมตรคิดว่าปีที่3 น่าจะเสร็จ

 มันก็เลยไม่ได้เรียกชื่อวัดอะไรเรียก“วัดศิริพร”ถ้าไปถามว่าวัดศิริพรอยู่ไหนคนจะรู้จักจริงๆเขาชื่อวัดอะไร ?

พี่นาง : วัดป่าสว่างธรรมค่ะ ตรงที่เราสร้างมันเป็นป่าช้าเก่า เป็นวัดเล็กๆแต่มันล้างไปแล้ว มีแค่ศาลาที่พี่นางทำกับชาวบ้านเล็กๆแล้วก็กุฎิของหลวงพ่อเล็กๆเท่านั้นเองมี2อย่าง แต่ทีนี้ในรอบเกาะก็มีทางเท่าคนเดิน แต่ก็ไม่รู้ด้วยเหตุอะไรปีนั้น แดดก็แดดเป็นเดือนเมษาด้วย ร้อนสุดพี่นางก็ไปดูพี่น้องเขาอยากได้ว่าพระนาคปรก เอาที่แบบไม่ต้องแพงมาก ชาวบ้านก็รวบรวมเงินกันบ้านเล็กๆอ่ะเขาได้กัน 40,000 แต่เขาขอพี่นาง 50,000 ให้เป็น 90,000 ให้ไปสร้างพระนาคปรก แต่เขาทำไม่ได้ไง เหล็กก็วางไว้อย่างงั้น เอาเสาลงไปก็หัก เอาลงไปใหญ่ก็หัก ไม่รู้ด้วยเหตุอะไร พี่นางก็เลยไปนิมนต์พระอาจารย์นำชัย โชติรโต ที่วัดแม่ย่าซอม บ้านปากตะแบก อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้วมาดู ท่านก็มาเพ่งจิตดูว่าปู่อยากอยู่ตรงนี้กลางแม่น้ำ ไม่ได้อยากอยู่ตรงนั้น ท่านก็เลยพาเอารถแม๊คโครมาตัก ทำเป็นถนนลงมา ที่มันก็เป็นน้ำนะมันเป็นเกาะ มันเหมือนถูกวางไว้แล้ว คล้ายๆคำชะโนดน่ะค่ะ มันมีอยู่แค่เกาะๆนั้นเกาะเดียว หินเต็มไปหมด พระอารย์ว่าต้องเปิดภูมิ บอกเจ้าที่เจ้าทางเทวดาอารักษ์ที่ปกปักษ์รักษาอยู่ตรงนั้นมันถึงจะทำได้ พระอาจารย์เก่งนะจิตท่านเพ่งไป แต่ทำไมมันราบรื่นเราไม่ได้หาแบบว่าแจกซองมาวางศิลาฤกษ์วันนั้นๆๆเราไม่ได้หาเลย แต่คนทำไมถึงหลั่งไหลมา พระอาจารย์ท่านก็เลยบอกว่าอาจจะเป็น 1.บุญบารมีของปู่  2. บวกกับชื่อเสียงโยมพี่ แล้วก็ 3. เจ้าที่เจ้าทางท่านเห็นด้วย

แต่ว่าตั้งจิตไว้ว่า ขอมีอายุแค่ 59 ปีนี่สิ ?

พี่นาง : คืออธิษฐานนานแล้ว จำได้น่าจะประมาณสัก 27 อายุ 27 อธิฐานว่าบอกแม่ หนูไม่อยากอยู่นาน เห็นคนแก่ๆที่เขาเดินไม่ได้ ดูแล้วมันห่อเหี่ยวใจ ถ้าเป็นไปได้ข้าพเจ้าขออายุไขแค่ 59 ปี

จากวันที่อายุ27 ที่อธิษฐานระหว่างทางเคยมีอยากจะขอเปลี่ยนตัวเลขไหม ?

พี่นาง : ไม่ ไม่เคยอยากเปลี่ยน คือไม่อยากแก่ไปกว่านั้น แก่กว่านั้นมันจะเดินได้ลำบาก

 ปีนี้ 56 แล้ว แล้วอีก3ปี เธอกลัวไหม ?

พี่นาง : ไม่กลัวหรอกค่ะ ยิ่งใกล้ยิ่งดี มันไม่ใช่ว่าหนีเรื่องเลวร้ายอะไรนะ ยังไงเราก็ไปอยู่ดี คือคนเราต้องรู้ว่าเกิดมามี  2อย่าง ทำดีกับไม่ดี ทำบุญกับบาปถูกไหม? เราก็เลือกเอา ในเมื่อเรารู้แล้วเราก็จะทำบาปทำไม เราก็ทำบุญไม่ดีกว่าทำบาปเหรอ มันสบายใจกว่า ให้มีความสุข ไม่ขอมาเกิดด้วยค่ะ ไม่ขอมาเกิดด้วยจริงๆ

จริงๆพวกเราน่าจะทราบกันเรื่องชีวิตที่ผ่านมาของพี่นางเองก็ผ่านอะไรมาเรื่องมรสุมมาค่อนข้างจะเยอะหนักบ้าง เบาบ้าง หนักบ้าง น้อยบ้างก็ไม่ใช่น้อย อะไรคือสิ่งที่ทำให้เราสามารถที่จะผ่านพ้นมาได้อย่างรวดเร็ว มีวิธีคิด แนะนำใครหลายๆคนที่เขาเจอปัญหาเหมือนอย่างที่เราเคยเจอไหม ?

พี่นาง : อันนี้ไม่ต้องไปแนะนำมากมายตัวเรา ถ้าสมมุติเราล้มเราไม่ลุกล่ะ สมมุติว่าคุณอั๋นเอาแม่ลุกแล้วแม่ไม่ลุกล่ะ มันก็ล้มไปดหมือนเดิมถูกไหม?  ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่ตัวเรา ถ้าไปนั่งร้องไห้ฟูมฟายเศร้าจะผูกคอตายจะฆ่าตัวตาย คุณได้เงินเดือนหรือเปล่า? คุณได้อะไรไหม ไม่มีเลย พี่นางนั่งร้องไห้วันเดียวคือจบเลย ครั้งเดียวคือจบเลยไม่มีอีกเลย ก็อยู่ที่วางใจเราอ่ะตัดสินใจให้ดี ขันติเราไม่ขันแตกอยากให้จำไว้ว่าอยู่ที่ตัวเรา ขาเรา แขนเรา มือเรา ปากเรา ตาเรา ปากพูดให้น้อยๆ หูฟังให้เยอะๆ เพราะว่าปากเรามีอันเดียวพูดน้อยๆ พูดมากมันผิดมากหูเรามี2อันฟังเยอะหน่อย เรื่องไหนดีเราเก็บเอาไว้เรื่องไหนไม่ดีก็เอาออกหูนี้มันอย่างนี้ ต้องยืนหยัดด้วยตัวเราเอง ไม่มีใครช่วยเราได้ จะเรื่องอะไรก็ตามอยู่ที่ตัวเราทั้งนั้น

แต่ว่านอกเหลือจากนั้นมีหลายคนที่เขาเป็นแฟน คิดถึงเพลงก็เลยแบบฝากมาถามว่า จะยังมีโอกาสได้เห็นพี่นางแบบกลับมาร้องเพลงใหม่ๆให้เราได้เห็นให้หายคิดถึงบ้างไหม ?

พี่นาง : ที่จริงพี่นางก็ร้องไว้หลายเพลงนะ สุดท้ายก่อนที่จะโควิดก็ “เสียงแคนที่หนองคาย”  ก็มีอีกหลายเพลง “กรรมเก่า”แล้วก็มีอะไรอีกอ่ะ “ผู้หญิงหลายมือ” ที่ร้องผ่านมาแล้วอ่ะ ก่อนที่เปรี้ยงปร้างก็มาโควิด แล้วก็มา “เสียงแคนที่หนองคาย”นี่แหละที่บริษัทให้ไปร้อง ก็กำลังเชียร์ๆอยู่ก็มาเนี่ย นี่คือดวง แต่มันไม่มีเพียงเราคนเดียวมันมีหลายคน ก็ติดกันไปหมดระเนระนาวกันไปหมด แต่พี่นางเนี่ยดี ตกงานเหมือนกันแต่ไปตกในฐานบุญไง พี่นางก็เลยรอดกินข้าวก้นบาตร ไม่ใช่ว่ายากจนหรือลำบากนะ แต่มันเป็นบุญไงที่เราไปตกในฐานธรรม เลยไม่ต้องคิดอะไรมาก ตื่นมาทำกับข้าวได้ทำบุญทุกวัน

Let's block ads! (Why?)




September 05, 2020 at 11:13AM
https://ift.tt/3jOVgdO

'ศิริพร อำไพพงษ์'ลั่นต่อจากนี้ !!ของดรับงานในวงการ พร้อมเผยตั้งจิตของมีชีวิตอยู่ถึงแค่อายุ 59 ปี - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://ift.tt/2ABr4S3

Demikianlah informasi dari 'ศิริพร อำไพพงษ์'ลั่นต่อจากนี้ !!ของดรับงานในวงการ พร้อมเผยตั้งจิตของมีชีวิตอยู่ถึงแค่อายุ 59 ปี - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

Semoga berita dan informasi artis berjudul 'ศิริพร อำไพพงษ์'ลั่นต่อจากนี้ !!ของดรับงานในวงการ พร้อมเผยตั้งจิตของมีชีวิตอยู่ถึงแค่อายุ 59 ปี - หนังสือพิมพ์แนวหน้า kali ini, dapat memberi manfaat untuk anda semua. Baiklah, sampai jumpa di postingan artikel berita dan informasi artis lainnya.

Anda sekarang membaca artikel 'ศิริพร อำไพพงษ์'ลั่นต่อจากนี้ !!ของดรับงานในวงการ พร้อมเผยตั้งจิตของมีชีวิตอยู่ถึงแค่อายุ 59 ปี - หนังสือพิมพ์แนวหน้า dengan alamat link https://artis-media.blogspot.com/2020/09/59.html

Subscribe to receive free email updates:

AdBlock Detected!

Ooooooops !!! Forgive me friend -_-

Like this blog? Keep us running by whitelisting this blog in your ad blocker.

Thank you!

×