ดี้ ชนานา เปิดอดีตชีวิตรัก เลือกสามีผิด เพราะคารม สุดท้ายสูญเงินหมดตัว! - thebangkokinsight.com
Judul : ดี้ ชนานา เปิดอดีตชีวิตรัก เลือกสามีผิด เพราะคารม สุดท้ายสูญเงินหมดตัว! - thebangkokinsight.com
link : ดี้ ชนานา เปิดอดีตชีวิตรัก เลือกสามีผิด เพราะคารม สุดท้ายสูญเงินหมดตัว! - thebangkokinsight.com
เป็นอีกหนึ่งนักแสดงสาวมากความสามารถที่อยู่ในวงการบันเทิงมานาน สำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่ ดี้ ชนานา นุตาคม ล่าสุด เจ้าตัวได้มาเปิดใจพูดคุยในรายการ เรื่องลับมาก (NO CENSOR) กับ ดร.เสรี วงษ์มณฑา เส้นทางชีวิตในวงการบันเทิง บทบาทแม่หม้าย การใช้ชีวิตในฐานะคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว และอดีตชีวิตรัก เลือกสามีผิดจนสูญเงินหมดตัว
เข้าวงการได้ยังไง ?
“จริง ๆ ไม่ได้อยากเป็นนักแสดงเลย แต่มีเพื่อนเป็นเจ้าของร้านเสื้อผ้า ณ วันนึงนางแบบเขาขาด เพื่อนเลยลากให้เดินแฟชั่น”
ตอนนั้นบทคนบ้าก็มี แย่งผัวชาวบ้านก็มี เป็นแม่ผัวตัวร้ายก็มี ทำไมไม่เป็นตัวดี ?
“เขาว่าด้วยคาแรคเตอร์ ด้วยเสียง และหน้าตาไม่ได้โง่ (หัวเราะ) ก็เลยได้แต่บทแบบนี้ ในชีวิตละครไม่ได้เล่นเป็นแม่ผู้ชายนะ จะเป็นแม่ฝ่ายหญิง สงสัยกลัวไปลวนลามลูก (หัวเราะ)”
คนบ้าก็เล่น ?
“ตอนนี้ต้องยอมรับความจริงว่าเราเอนเนอร์จี้สูง บททั้งคนบ้า บทคุณตัว บทร้าย ต้องใช้พลังงานเยอะ ก็เป็นความภาคภูมิใจว่าเราได้สิทธิ์นั้น คิดดูถ้าคนเรียบร้อยเล่น เอนเนอร์จี้ไม่ได้ใช้ แต่เอาจริง ๆ คือในชีวิตจริงด่าไม่เป็น ถ้าตามบทน่ะทำได้ เคยเจอต่อหน้าต่อตา แฟนเราที่คบอยู่มีกิ๊ก พอเจอจริง ๆ เฮ้ย นี่ฉันเจอแบบนี้จริงเหรอวะ เพื่อนบอกว่าจัดการสิ ด่าสิ แต่เราก็ยืนเอ๋อเหรอ เพื่อนเห็นกับตาเลยว่าอีนี่นอกจอไม่ได้เรื่องเลย ถึงแม้มีบทก็ยังคิดในใจว่าคนเราต้องตบตีแย่งปิกาจู้อันนึงนี่เหรอ อะไรนักหนา ต้องขนาดนั้นเลยเหรอ”
ตบนางเอกมากี่คน ?
“ตบมาแทบทุกคน และเกิดแทบทุกคนด้วย พอลล่าก็ตบ ล่าสุดก็ลูกสาว มารีน่าก็ตบ ตบทุกคนในวงการ”
ดี้ถือคติว่าเล่นบทดีไม่มีคนจำ เล่นบทร้ายคนจะจำได้ ?
“คนไม่เห็นจริง ๆ นะคะ ดี้ว่าถ้าเล่นบทแบบนั้นต้องดร็อปตัวเองลงให้เอนเนอร์จี้น้อย แต่คนมองไม่เห็น”
เคยถูกผู้กำกับให้ลดพลังหน่อยไหม ?
“เคยมี เขาบอกว่าแววตาให้ดร็อปลงนิดนึง ให้ดูโง่นิดหนึ่ง การเล่นละครดี้ไม่ดูหนังต่างประเทศ เพราะดี้ว่าจริตไทยกับต่างประเทศต่างกัน ครูของดี้คือคนในข่าว ดี้จะดูเลยว่าคนจนแววตาเขาเป็นยังไง คนที่เสียใจแบบลูกตาย เขาจะโฮยังไง ร้องยังไง ดูชีวิตจริงค่ะ ดูข่าว เขาจะร้องไห้ยังไง ร้องไห้ดีใจ ร้องไห้เสียใจ ร้องไห้ผัวตายลูกตายไม่เหมือนกัน สมมติได้ไปเป็นโค้ชให้เด็กรุ่นใหม่จะบอกว่ายูอย่าไปดูเกาหลี ดูอะไรทั้งนั้นเพราะจริตไม่เหมือนกัน เมืองนอกไม่มีการค้อนแบบฉวัดเฉวียน การค้อน งอน มันหญิงไทยเท่านั้นที่จะมี อย่าไปก้อปปี้มันไม่เหมือน ซึ่งในเมืองนอกไม่มี อย่าไปก้อปปี้ มันไม่เหมือน การร้องไห้ทุกอย่างต้องดูของจริง”
สมัยเป็นสาวสวย มีคนจีบเยอะไหม ?
“ไม่ต้องห่วงค่ะ บันไดไม่แห้งค่ะ (หัวเราะ) ดิฉันก็หนึ่งในตองอู ก็เยอะ สลับสับคิว คนจีบเยอะ แต่ถามว่าชอบใครง่าย ๆ มั้ย ก็ไม่ง่ายนะ บอกปฏิเสธเยอะ”
สวยเลือกได้เหรอ ?
“ก็เป็นของจริงนี่คะ มันเป็นธรรมชาติ สาว ๆ ดิฉันไม่ธรรมดานะคะ”
ทำให้เขาผิดหวัง ?
“เยอะค่ะ บางคนยังไม่เริ่มเป็นแฟนเลย เราก็บอกว่าเป็นเพื่อนกันดีกว่า เขาก็เป็นลูกคนรวย ขับรถอัดชนกำแพงโชว์เลย เบนซ์สปอร์ตพุ่งชนกำแพงเลยค่ะ เราก็คิดว่าเราโชคดีที่ไม่เลือกคนนี้ มันโง่ว่ะ รถแพง ๆ มันยังชนเลย ถ้าเป็นแฟนมันคงชนเรา วิเคราะห์แล้ว และใช้ความรุนแรง ถ้าแต่งงานกันมันคงตบเราเดี้ยงติดกำแพง คงไม่ใช่แค่รถ คิดแล้วว่าไม่ใช่ทาง โง่ไม่เอา รุนแรงไม่เอา รวยแล้วโง่ไม่เอาค่ะ”
ถ้ารวยไม่โง่ล่ะ ?
“มันไม่มีนะคะที่เข้ามา คือบังเอิญว่าที่รวยแล้วฉลาดไม่เข้ามา ส่วนใหญ่เป็นลูกคุณหนูที่ไม่เวิร์ก นักธุรกิจเริด ๆ ดี ๆ ก็มีนะ แต่เขาทำงานตลอดเวลา แต่เราเป็นคนอาร์ตติสต์ อยากไปเที่ยวต่างจังหวัด ชอบเที่ยว และชอบวาดรูป เขียนหนังสือ พวกที่รวยจริง ๆ นักธุรกิจก็คนละแบบกับเรา ให้เราไปนั่งแต่งตัวนับเงินมันก็เหนื่อย เพราะชีวิตจริงเราไม่ใช่คนชอบแต่งตัว เราชอบแบบธรรมชาติมากกว่า ถ้าเป็นแฟนนักธุรกิจคงตื่นเช้า เสื้อผ้าหน้าผมแน่น ไม่ใช่คาแรคเตอร์เรา”
หลังผู้ชายเข้ามาเป็นสิบ ๆ ให้เลือก แต่ไม่เลือก คนที่ตกลงปลงใจ เกิดอะไรขึ้น ?
“เขาเรียกว่ากราฟชีวิตตก พอถึงเวลาเลือกจริง ๆ อาจดวงเราต้องเป็นแม่ม่าย เวลาเราเลือกอะไร เราก็เลือกแบบปัญญาอ่อนมาก ๆ ตอนนั้นอายุ 25 เบญจเพศ สมัยก่อนมีความคิดว่าถ้าอายุเลย 25 ไปมีลูกแล้วจะโง่ แต่พอแต่งไปแล้วเราถึงรู้ว่าฉันนี่แหละที่โง่ที่ไปแต่งงาน (หัวเราะ) ตอนที่เลือกดี้ไม่ได้เลือกรวยเป็นหลัก เราเห็นว่าเขาพูดดี พูดเก่ง เขาบอกว่าเขามาจากครอบครัวที่แตกแยก ดี้ก็มาจากครอบครัวที่แตกแยก เขาจะทำครอบครัวให้ดี แต่พอเวลาแต่งไปจริง ๆ มันกลับไม่ใช่ ก็โอเค เราได้เป้าหมายมาคือได้ลูก พอไม่ใช่ปุ๊บ เราก็เอาลูกออกมา และเลิกค่ะ”
ความหล่อมีส่วนไหม ?
“ดี้คำนวณว่าลูกออกมาต้องตัวสูง ดี้อยากได้ลูกสาว แต่งงานเพราะอยากมีลูก ดี้เกิดมาจากครอบครัวที่พ่อแม่หย่ากัน อยู่กับคุณยายมาตลอด ฉะนั้นดี้ต้องการมีลูกของตัวเอง ถึงเลือกแต่งงาน ก็คำนวณว่าพ่อพันธุ์อันนี้นะ ลูกฉันต้องออกมาสูง ดี้มองเขาเป็นแค่นั้นจริง ๆ ค่ะ”
เขารู้ตัวมั้ยว่าดี้มองเขาเป็นแค่พ่อพันธุ์ ?
“เขาไม่รู้ตัวหรอก แต่ก็เหมือนผู้หญิงปัจจุบันที่ไปฉีดยาให้มีลูกได้ แต่ยุคนั้นไม่ฉลาดขนาดนั้น เราก็ต้องการพ่อพันธุ์ ฉันคำนวณว่าตานี่สูงดี ลูกฉันออกมาอย่างน้อย ๆ สูง ลูกฉันต้องหน้าตาโอเค คิดแค่นั้นจริง ๆ”
จีบกันนานไหม ?
“ดี้เห็นเขานาน เป็นแฟนเพื่อนเรา เขาผ่านมาเยอะมาก สมัยก่อนเขาหน้าตาดี ซึ่งมีไม่กี่คน ตัวสูง ๆ เป็นนักเรียนนอก รู้จักนาน แล้วอย่างที่บอกเหมือนช่วงผีผลัก เขามาพูดดี ๆ กับเรา เราก็โอเค แล้วก็นั่นแหละ มันก็อยู่กันไม่ได้”
อยู่กันกี่ปี ?
“สองปี มีลูกสองคน จบข่าว ระหว่างทางไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย เขามีปัญหาชีวิตของเขาเยอะมาก ระหว่างแต่งก็ไม่เคยอยู่ด้วยกัน ดี้จึงไม่รู้จักชีวิตครอบครัวเป็นยังไง เขามีปัญหาด้านการเงิน หนีหนี้ตลอด ได้ลูกมาสองคนก็เลิก เลิกกับการที่เงินเราในแบงค์สูญหมดเลย ตอนนั้นกำลังมีชื่อเสียงมาก ละครหางเครื่องกำลังออนแอร์ เราก็มูฟออกมา เริ่มต้นใหม่จากศูนย์ เอาลูกออกมาสองคน”
เงินไม่เหลือเลยเหรอ ?
“ไม่เหลือเลย”
ตอนนี้เจอหน้ากัน ยังคุยกันไหม ?
“ก็พูดได้ ก็ยังให้ลูกไปเจอถ้าลูกอยากเจอ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่พลาดในชีวิต แต่เราก็ได้ลูกมา เราก็อภัยไป เพราะไม่รู้จะโกรธเพื่ออะไร”
เงินสูญไม่โกรธเหรอ ?
“เงินหายมันก็ช่วยไม่ได้ มันก็เหมือนว่าแต่งงานกันคิดว่ากระเป๋าเดียวกัน ก็เลยให้ เราไม่อยากพูดอะไรมาก เรื่องลึกมีเยอะ ไม่อยากประจานใด ๆ ทั้งสิ้น มันผ่านไปแล้วก็คือผ่าน คุยกันได้ แต่ไม่ได้ซีเรียสอะไร เขาก็ไปมีลูกอีกเยอะแยะไปหมดเลย”
ตอนเป็นแม่หม้าย อยากมีใหม่ไหม ?
“เฉย ๆ นะคะ เพราะเราก็ใช้ชีวิตทำงาน จุดมุ่งหมายเราคือเลี้ยงลูกให้รอด เราเคยผ่านอะไรมาหยก ๆ ก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ จริง ๆ ดี้ซื้อบ้านก่อนแต่งงาน ดี้อยากเตือนผู้หญิงทุกคน ก่อนแต่งงานคุณต้องมีอะไรเป็นของตัวเอง เวลาเลิกมาแล้วคุณจะมีคุณค่า ถึงแม้ไม่มีเงิน แต่ดี้ก็มีบ้านอยู่ ดี้ก็ผ่อนบ้านไปเรื่อย ๆ แล้วมาตั้งสติใหม่เลยว่าฉันต้องผ่อนบ้านให้หมด หาเงินมาได้ปุ๊บต้องจัดให้เป็นระบบ ต้องผ่อนบ้านให้หมดเพราะอย่างน้อย ๆ ฉันต้องมีบ้าน สองคือเรื่องการเล่าเรียนลูก และสามเก็บเงินอนาคตไว้บ้าง เพราะงานเรามันไม่แน่ไม่นอน สำหรับตัวเองใช้น้อยมาก ก่อนแต่งงานอาจมีแบรนด์เนมบ้าบอคอแตก หลัง ๆ ก็ไม่มี และเริ่มออกกำลังกายเป็นเรื่องเป็นราว เพราะคิดว่าเราต้องสตรอง ต้องแข็งแรงเพื่อเลี้ยงลูกให้รอด เพราะเราเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวแล้ว”
หลังจากนั้นไม่คบใครเป็นเรื่องเป็นราว ?
“หลังจากนั้นก็มีหนุ่ม ๆ เข้ามาอีกคนนึง เด็กกว่าดี้ 7-8 ปี เหมือนจะไปได้ดี เพราะเขาเป็นหนุ่มโสด แต่ตอนหลังมีปัญหาเพราะพ่อแม่เขาไม่ยอมรับเรา เพราะเราเป็นแม่ม่ายลูกติด คบได้ชิล ๆ ไป 5 ปีแล้วก็แยกกัน ทุกวันนี้ยังเป็นเพื่อนกันอยู่”
การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ชีวิตเป็นยังไง ?
“ก็อย่างที่บอก ถ้าคิดจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณต้องเตรียมตัวให้พร้อม ต้องให้เวลา ยิ่งเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่าใช้แต่อำนาจไปสอนเขา ยิ่งมีลูกชาย ก็อยากบอกแม่เลี้ยงเดี่ยวว่าอย่าไปยึดเขาเป็นสรณะ อย่าเอาอำนาจไปจิก ๆ เขา ต้องแลกเปลี่ยนความคิดกับเขา ลูกชายเรา เราไม่เลี้ยงแบบเพื่อน แต่เราจะเลี้ยงแบบรุ่นพี่รุ่นน้อง คุยกันได้ทุกเรื่อง แต่เราต้องเป็นรุ่นพี่เขา เรื่องการดำเนินชีวิตให้ถูกต้องเราสอนเขาได้ แต่เรื่องการใช้ชีวิตแบบโมเดิร์นเราต้องรับเขาด้วย โลกของความทันสมัย และต้องติดตามเหตุการณ์ให้ทันด้วย คุณถึงจะคุยกับลูกรู้เรื่อง ไม่ใช่นั่งจิกเอาเรื่องโบราณมาสอนอย่างเดียว โดยเฉพาะลูกชาย”
“เราต้องทำตัวอ่อนแอให้เขาเป็นผู้นำบ้าง ขนาดลูกดี้ตอนที่ดี้จะถึงคราวต้องแยกกับคนที่เป็นลูกครึ่ง เขารู้ว่าเราเฮิร์ตเพราะรักกัน แต่ผู้ใหญ่ทำให้ต้องเลิก ไปรับลูกที่โรงเรียนวชิราวุธ คุยให้ลูกฟัง ตอนนั้นลูกอายุ 12 เขาก็บอกว่าคุณแม่ไม่ต้องเสียใจ คุณแม่ไปเที่ยวเลย ไม่ต้องร้องไห้ ไปเที่ยวได้เลย ซึ่งเขาอายุ 12 เองค่ะ คุยกันเหมือนรุ่นพี่รุ่นน้อง”
ยึดลูกถึงขนาดมองผู้หญิงของลูกไม่ดี ?
“โหย ไม่เป็นเลยค่ะ ไปถามลูกได้ ดี้กลับบอกให้เขาให้เกียรติผู้หญิง ถ้าทะเลาะกันอย่ามาฟ้อง แม่ต้องเข้าข้างผู้หญิงก่อน เพราะเขาเป็นเพศหญิง เขาให้เกียรติมาเป็นแฟนเราก็ดีแล้ว ลูกกับดี้สนิทกันมาก ลูกจะรู้เลยว่าคนไหนคบแล้วเราโอเค เขาไม่ได้เอากะเรียกะราดมาให้เราปวดสมอง แม่ก็ติสต์ ๆ แบบนี้ ลูกจะรู้เลยว่าแฟนลูกไม่จำเป็นต้องรวย ต้องเริด แต่ขอให้มีการศึกษา เข้ากันได้ คุยกันรู้เรื่อง ปัญหาถึงไม่มี ต้องไม่โง่ ช่วยกันทำมาหากิน ต้องมีอะไรซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน ชีวิตเป็นของเขา ไม่ใช่ชีวิตเรา เราดูแค่ห่าง ๆ ถ้าเขาเข้ากันได้ก็เป็นสิ่งที่ดี จะได้ไม่ต้องมาปวดหัว”
ไม่ใช่แม่ที่หวงลูกชาย ?
“ไม่มี เราไม่เป็น แต่เรามองก็จะรู้ว่าคนนี้รอด คนนี้ไม่รอด แต่ก็ให้เขาคิดเอาเอง บางคนมาสวยเหมือนซูเปอร์โมเดล เราว่าคนนี้ไม่รอดเพราะลูกเราเซอร์ เราจะรู้ว่าคนไหนเข้ากันได้ คนไหนเข้ากันไม่ได้ และมันจะเป็นไปตามนั้น”
ที่บอกว่าเลี้ยงลูกอย่าเลี้ยงให้เหมือนเลี้ยงหมา นี่ยังไง ?
“ลูกไม่ใช่หมา ไม่ใช่แมว ที่คุณเบื่อแล้วคุณทิ้งออกไปไหนก็ได้ หมาแมวแค่เลี้ยงดูให้อาหารการกิน แต่ถ้ามีลูกคุณต้องปลูกฝังเรื่องทัศนคติ ไม่ว่าจะเรื่องการเรียน หรือการใช้ชีวิตต่าง ๆ คุณต้องให้ความรู้ด้วย ฉะนั้นคุณต้องพร้อมและมีเวลาถ้ามีลูกค่ะ”
Add Friend Follow
July 29, 2020 at 10:20AM
https://ift.tt/3hJI1Kl
ดี้ ชนานา เปิดอดีตชีวิตรัก เลือกสามีผิด เพราะคารม สุดท้ายสูญเงินหมดตัว! - thebangkokinsight.com
https://ift.tt/2ABr4S3
Demikianlah informasi dari ดี้ ชนานา เปิดอดีตชีวิตรัก เลือกสามีผิด เพราะคารม สุดท้ายสูญเงินหมดตัว! - thebangkokinsight.com
Anda sekarang membaca artikel ดี้ ชนานา เปิดอดีตชีวิตรัก เลือกสามีผิด เพราะคารม สุดท้ายสูญเงินหมดตัว! - thebangkokinsight.com dengan alamat link https://artis-media.blogspot.com/2020/07/thebangkokinsightcom_28.html