เฮนเดอร์สันสำคัญแค่ไหน?! - สยามกีฬา
Judul : เฮนเดอร์สันสำคัญแค่ไหน?! - สยามกีฬา
link : เฮนเดอร์สันสำคัญแค่ไหน?! - สยามกีฬา
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มีฤดูกาลที่ดีสุดๆ จนได้รับผลโหวตคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำซีซั่นของสมาคมนักข่าว(FWA)
กัปตันลิเวอร์พูล วัย 30 ปี คือผู้นำพา ลิเวอร์พูล ก้าวไปสู่แชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี ซึ่งผลงานส่วนตัวของเขาทำได้ 4 ประตูจากการลงสนาม 30 เกม
ขณะเดียวกัน คนที่ เฮนโด้ เบียดเอาชนะคว้ารางวัลนี้คือ เควิน เดอ บรอยน์ ที่มีฤดูกาลอันมหัศจรรย์เช่นกันกับตัวเลขแอสซิสต์และการมีส่วนร่วมกับประตูให้กับ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งหากมองดูแล้วการจะให้แข้งทีมชาติเบลเยี่ยม คว้ารางวัลนี้มันก็ไม่ได้ดูผิดแปลกแต่อย่างใด
นอกจากนี้เพื่อนร่วมทีม"หงส์แดง" ก็มีผลงานที่ดี แต่ทำไมล่ะ ถึงต้องเป็น เฮนเดอร์สัน โดยข้อมูลดังต่อไปนี้ Opta สื่อนักรวบรวมสถิติได้รวบรวมเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า หมายเลข 14 ของ ลิเวอร์พูล ก็มีดีไม่ต่างจากคนอื่น ๆ เลย
มีอิทธิพลในเกมรุกมากขึ้น
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไม่มีทางที่จะสร้างสรรค์ ปั้นเกมรุกเหมือนอย่างที่ เควิน เดอ บรอยน์ ทำได้แน่นอน แต่สิ่งที่เขาทำได้คือการมีบทบาทกับเกมรุกของ ลิเวอร์พูล มากขึ้นกว่าแต่ก่อน
เฮนโด้ ไม่เคยมีส่วนร่วมกับประตูมากขนาดนี้มาก่อน นับตั้งแต่ที่ทำได้ 6 ประตู กับ 9 แอสซิสต์ในฤดูกาล 2014-15
ฤดูกาลนี้ เฮนเดอร์สัน สร้างโอกาสทำประตู 27 หน รวมถึงมีส่วนในการขึ้นเกมจากแถวสอง จนกลายเป็นการช่วย 3 แนวรุกของ ลิเวอร์พูล ได้เป็นอย่างดี
ลิเวอร์พูล มั่นใจได้เมื่อมีกัปตันของพวกเขา
นับตั้งแต่ เฮนเดอร์สัน บาดเจ็บไปเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ลิเวอร์พูล เก็บชัยได้แค่ 1 เกมจาก 3 นัดเท่านั้น
การที่ ลิเวอร์พูล มีผลงานตกลงในเกมที่ไม่มี เฮนเดอร์สัน เป็นการยืนยันด้วยว่าเขามีความสำคัญมากแค่ไหน โดยเวลาที่ เฮนโด้ ลงเล่น ลิเวอร์พูล มักจะทำผลงานได้ดีกว่าตอนที่ไม่มีเขาเยอะ
ในพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ 90% ของชัยชนะที่ ลิเวอร์พูล เก็บได้เกิดขึ้นเมื่อมี เฮนเดอร์สัน ลงสนาม (27 จาก 30 นัด) ซึ่งหากเปรียบเทียบตอนที่ไม่มีกัปตันทีมรายนี้ลงเล่นแล้ว ทีมมีอัตราชนะแค่ 57% เท่านั้น (4 จาก 7 เกม)
ที่จริงแล้วในช่วง 7 เกมที่ เฮนเดอร์สัน ไม่ได้ลงเล่นนั้น "หงส์แดง"ทำแต้มหล่นไป 8 คะแนน ขณะที่ 30 เกมที่ เฮนเดอร์สัน ลงเล่นให้ทีมได้นั้น ลิเวอร์พูล ทำแต้มหล่นไปแค่ 7 แต้ม
เดอ บรอยน์ ได้รับผลกระทบจากการที่ ซิตี้ ฟอร์มตก ?
เฮนเดอร์สัน ทำผลงานได้ดีก็จริงอยู่ แต่ เดอ บรอยน์ เองก็อาจทำใจยอมรับได้ยาก เพราะเขาเองก็โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมจนเข้าขั้นเป็นหนึ่งในผลงานส่วนตัวที่ดีที่สุดในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา
นับตั้งแต่ซีซั่น 2003/04 มีเพียง เอแด็น อาซาร์ ตอนฤดูกาล 2014/15 เท่านั้น ที่สร้างโอกาสทำประตูต่อ 1 ซีซั่นมากกว่าที่ เดอ บรอยน์ ทำได้ในปีนี้
โดยในตอนนั้น อาซาร์ สร้างโอกาสทำประตู 98 ครั้ง ส่วน เดอ บรอยน์ ทำได้ 97 หน และยังมีอีกหนึ่งเกมให้เขามีโอกาสแซงเพื่อนร่วมทีมชาติได้เช่นกัน
ซีซั่นนี้ เดอ บรอยน์ ทำไปแล้ว 19 แอสซิสต์ น้อยกว่าสถิติการทำแอสซิสต์สูงสุดต่อ 1 ซีซั่นที่ เธียร์รี่ อองรี ทำไว้เมื่อฤดูกาล 2002/03 แค่ 1 ครั้ง ขณะที่ตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางคนสุดท้ายก่อนหน้าเขาที่มีส่วนร่วมกับประตูใน พรีเมียร์ลีก ต่อ 1 ฤดูกาลอย่างน้อย 30 ลูกคือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่ทำเอาไว้ 36 หน เมื่อฤดูกาล 2009-10
อย่างไรก็ตาม เฮนเดอร์สัน ก็มีส่วนในการทำให้ทีมประสบความสำเร็จ เขาช่วยยุติการรอคอยแชมป์ลีกที่ยาวนานของ ลิเวอร์พูล ลงได้ ขณะที่ ซิตี้ ของ เดอ บรอยน์ มีผลการแข่งขันอันน่าผิดหวังหลายนัด
...
ด้านล่างนี้ผมนำเอาคอมเมนต์ของหลาย ๆ คนที่กล่าวชม เฮนเดอร์สัน เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่า กัปตันทีมคนนี้เจ๋งจริงแบบไม่มีข้อแม้ใด ๆ
"เฮนโด้ เป็นนักฟุตบอลที่สมบูรณ์แบบไหมน่ะเหรอ ? ไม่เลย แล้วมีนักเตะคนไหนที่ผมรู้จักแล้วเป็นคนที่สมบูรณ์แบบรึเปล่า ? ก็ไม่มีเหมือนกัน"
"แต่ถ้าถามว่าเขาเป็นคนที่สำคัญกับเรารึเปล่าก็ต้องตอบว่า ใช่ เขาเป็นคนที่สำคัญกับเรา"
- เจอร์เก้น คล็อปป์
...
"ผมไม่แปลกใจเลยกับการที่เขาจัดการกับตัวเองได้ดีทั้งในและนอกสนาม"
"ผมเคยร่วมงานกับเขาเป็นเวลาหลายปีทั้งกับ ลิเวอร์พูล และทีมชาติอังกฤษ เขาเป็นคนที่ฟิตมาก ๆ เป็นนักกีฬาที่ดีที่ไม่มีความเห็นแก่ตัวเลยกับการเล่นในสนาม เขาให้ความสำคัญกับคนอื่นๆ มากกว่าตัวเองอยู่เสมอ"
"เมื่อคุณได้เล่นร่วมกับเขา คุณก็จะประทับใจกับงานที่เขาทำเพื่อทีม และผมคิดว่าตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขาพัฒนาเกมการเล่นของตัวเองได้หลายด้าน ตอนนี้เขาผ่านบอลแบบระยะไกลได้ดีมากๆ"
"เขาพร้อมช่วยทีมอยู่เสมอ ผมได้เห็นเขาเติบโตในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่มีความเอาใจใส่อย่างมาก เขาเป็นเด็กหนุ่มที่ยอดเยี่ยมและเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ดีอยู่เสมอ"
"ไม่น่าแปลกใจเลยที่ตอนนี้หลายคนเริ่มตระหนักว่าเขาเป็นคนแบบไหนทั้งเรื่องในและนอกสนาม เขาคู่ควรกับทุกคำชมที่เขาได้รับแล้ว เพราะมันเป็นเรื่องจริง และผมสามารถรับประกันเรื่องนั้นได้ เพราะผมเคยเล่นร่วมกับเขามาแล้ว"
- สตีเว่น เจอร์ราร์ด
...
"มันน่ายินดีเป็นอย่างมากที่เขามาเป็นกัปตันทีมของผมและของทุกคน"
- แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
...
"จอร์แดน เป็นผู้เล่นที่สำคัญกับทีมนี้มาก ๆ"
"หลายครั้งที่หลายคนมองข้ามสิ่งที่เขาทำให้ทีม ผมไม่รู้หรอกว่าคนภายนอกประเมินค่าเขาต่ำกว่าความเป็นจริงรึเปล่า แต่ผมรู้ดีว่าทุกคนของสโมสรชื่นชมเขามาก ๆ เขาเป็นกัปตันของเรา และเป็นแบบอย่างได้ดีอยู่เสมอ"
- เฟอร์กิล ฟาน ไดค์
...
"เขาเป็นคนที่ทำให้ตัวเองเป็นนักเตะที่ดีมาก ๆ เขาทำงานในด้านเกมการเล่นของตัวเองอยู่ตลอด เขาเป็นคนที่คุณอยากให้มารบเคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมกับคุณ"
- แกรม ซูเนสส์
...
"จอร์แดน เป็นแบบอย่างที่สมบูรณ์แบบ คุณจะเห็นได้เลยว่าการได้เป็นกัปตันทีมของสโมสรฟุตบอลแห่งนี้มันมีความหมายกับเขาอย่างมาก เขาจะตำหนิทุกคนถ้าคน ๆ นั้นไม่ทำงานอย่างหนักเพื่อทีม"
"เขาไม่แคร์กับการที่จะได้เป็นที่สนใจของคนอื่นเลย เขาพอใจกับการที่ไม่ตกเป็นที่สนใจของชาวบ้านชาวช่อง และทำงานของตัวเองต่อไป เขาทำทุกอย่างเพื่อทีม ไม่ได้ทำเพื่อตัวเขาเอง"
- เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
...
"เขาเป็นเหมือนประกายแสงแห่งความหวังในยุคมืดของประเทศ เขาเป็นผู้นำที่ประเทศนี้กำลังมองหาอยู่อย่างแท้จริง"
"เขายังเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ในสนามด้วยเช่นกัน เขาทำให้การรอคอยแชมป์ลีกที่ยาวนาน 30 ปีสิ้นสุดลงได้ เจอร์ราร์ด พูดถูก ปลอกแขนกัปตันทีมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการมีความรับผิดชอบ ถือว่าเหมาะกับ เฮนเดอร์สัน มาก ๆ เลยทีเดียว"
- เฮนรี่ วินเทอร์ (นักข่าวของ เดอะ ไทม์ส)
...
"เกมการเล่นของเขาเปลี่ยนไปเยอะมาก"
"ลองย้อนนึกถึง 4 ปีก่อนที่ ลิเวอร์พูล ในยุคของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เกือบจะได้แชมป์ดูสิ ตอนนั้นเขาเป็นมิดฟิลด์ประเภทห้องเครื่อง แต่ตอนนั้นก็มี เจอร์ราร์ด ยึดตำแหน่งนั้นอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาก็สามารถพัฒนาเกมการเล่นของตัวเองได้ เขาเติบโตขึ้น"
"เขาอยากเรียนรู้อยู่เสมอ เขาทำงานอย่างหนักและยังมีความรอบคอบด้วย เขาเป็นนักเตะในฝันของผู้จัดการทีมเลยล่ะ"
- แกรี่ เนวิลล์
...
"ไม่ว่าคุณจะพูดชม จอร์แดน มากเท่าไหร่มันก็คงไม่มากพอ เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ"
"ผมคิดว่าสิ่งที่คุณเห็นในเกมการแข่งขัน ก็เป็นสิ่งเดียวกับที่เขาทำในการซ้อมทุกวันนั่นแหละ"
"เขาเป็นแบบอย่างที่ดีอยู่เสมอในแง่ที่ว่าปฏิบัติตัวในการซ้อมยังไงตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันศุกร์ เขากำหนดมาตรฐานและระดับเหล่านั้นได้ ผมดีใจแทนเขาจริง ๆ"
- แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์
...
"ผมจำวันที่เขามาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ได้ดี ตอนนั้นผมคิดว่าเขาโชคดีที่ได้มาอยู่กับทีม"
"แต่ตอนนี้มันกลายเป็นว่า ลิเวอร์พูล โชคดีที่มีเขาอยู่ในทีม เขารับตำแหน่งกัปตันทีมมาจากตำนาน ก่อนที่จะทำเรื่องต่าง ๆ ตามแนวทางของเขาเอง และตอนนี้เขาก็มีแชมป์ติดมือแล้ว"
- ปีเตอร์ เคราช์
...
"ผมต้องบอกเลยว่าผมดีใจมาก ๆ ที่ฤดูกาลนี้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้รับตำชมมากกว่าซีซั่นก่อน ๆ แต่ส่วนหนึ่งมันก็ทำให้ผมแปลกใจนิด ๆ เหมือนกัน"
"ผมคิดว่าการที่หลายคนชมว่าเขาพัฒนาขึ้นเยอะมาก มันบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาเป็นนักเตะที่ดีแค่ไหนมากกว่าการที่จะให้เจ้าตัวออกมาพูดเองซะอีก เพราะการที่เขาทำหน้าที่ในฐานะกัปตันทีมได้ดีอย่างต่อเนื่องมันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ลิเวอร์พูล กลับมาเป็นยอดทีม และผมก็มั่นใจว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ จะคิดแบบนั้นเหมือนกัน"
- เจมี่ คาร์ราเกอร์
...
"ตอนนั้นเขาเป็นคนที่ดีกว่าคนอื่น ๆ ที่เรามีอยู่ในทีมหากนับเฉพาะตำแหน่งนั้น นั่นเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเล่นในสนาม หลังจากนั้นพอเราได้คุยกันแล้ว เราก็ได้รู้ว่าเขาเป็นคนที่มีสมดุลดีมาก ๆ คุณพ่อของเขาเข้ามาคุยกับผมพร้อมกับเขา ซึ่งสำหรับผมแล้วนั่นเป็นสัญญาณที่ดีเลย"
"เขามีชีวิตที่มั่นคง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ช่วยเขาได้เป็นอย่างดี และเขาก็มุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จในโลกฟุตบอลให้ได้ด้วย ถ้าผมไม่มอบโอกาสให้เขาแล้วล่ะก็ ผมก็คงจะทำพลาดมหันต์ ผมจะไม่ถ่อมตัวหรอกนะ พอคุณเห็นสิ่งที่ชอบคุณก็จะใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ชอบเป็นธรรมดา"
"เขาจะเป็นกัปตันทีม ลิเวอร์พูล เพียงแค่คนเดียวที่ได้ชูถ้วยแชมป์ถ้วยนี้ในสภาพที่เป็นแชมป์ศึกชิงแชมป์สโมสรโลกด้วย เขาอยู่ในระดับเดียวกับกัปตันทีมที่ได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก"
- เคนนี่ ดัลกลิช
...
"เขาเป็นกัปตันทีมของเรา เขามีบุคลิกที่ยอดเยี่ยม ถ้าจะให้ผมเขียนหนังสือเกี่ยวกับ เฮนโด้ แล้วล่ะก็ มันก็คงจะมีความยาวสัก 500 หน้าได้ ผมชอบเขามาก ๆ ผมบอกเลยว่างานที่ยากที่สุดของโลกฟุตบอลในช่วง 500 ปีที่ผ่านมาก็คือการมาแทนที่ เจอร์ราร์ด นี่แหละ"
"ตอนนั้นหลายคนมีความคิดฝังใจว่า -ถ้าไม่ใช่ สตีวี่ มันก็ไม่มีใครดีพอ- แต่เขาก็รับมือกับเรื่องนั้นได้อย่างยอดเยี่ยม ดังนั้นตอนนี้เขาเลยสามารถภาคภูมิใจได้อย่างเต็มที่ ตอนนี้เราต้องคิดเกี่ยวกับอนาคตกันแล้ว และเขาก็เป็นคนที่มีความสำคัญมากๆ กับทีมของเรา"
"เขาคู่ควรกับทุกคำชมที่ได้รับ แต่ที่จริงตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้รับคำชมมากเท่าที่ควรด้วยซ้ำไป"
- เจอร์เก้น คล็อปป์
HOSSALONSO
July 25, 2020 at 01:00PM
https://ift.tt/3eZp4BF
เฮนเดอร์สันสำคัญแค่ไหน?! - สยามกีฬา
https://ift.tt/2ABr4S3
Demikianlah informasi dari เฮนเดอร์สันสำคัญแค่ไหน?! - สยามกีฬา
Anda sekarang membaca artikel เฮนเดอร์สันสำคัญแค่ไหน?! - สยามกีฬา dengan alamat link https://artis-media.blogspot.com/2020/07/blog-post_86.html